~
~
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ชาวโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสต์ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค ซึ่งได้โพสต์ข้อความระบุว่า ณ ร้านส้มตำแห่งหนึ่ง ด้วยความหิวจนตาลาย จึงสั่งส้มตำ กับ ขนมจีนไปชุดใหญ่ พอแม่ค้ายกมาเสริ์ฟ เราก็ กิน กิน กิน แล้วก็กิน พอใกล้จะอิ่มเท่านั้นแหละ
กำลังจะตักขนมจีนเข้าปากอีกคำ ถึงได้สังเกตุเห็นจุดดำๆ บนเส้นขนมจีน ก็เลยลองพลิกเส้นขนมจีนที่เหลือบนจานดู โอ้วววว แม่เจ้า นี่ฉันซัดขนมจีนขึ้นราไปเกือบหมดเลยหรอเนี่ย แงงงงง คืนนี้ฉันจะท้องเสียไหมนะ
~
~
ตอนเก็บตังค์ กระซิบบอกแม่ค้า ว่าเส้นขนมจีนขึ้นรานะคะ แม่ค้าก็รับผิดชอบ ไม่คิดค่าขนมจีน 10 บาท บอกสงสัยอากาศมันร้อน ขนมจีนเลยขึ้นรา
อยากจะเตือนทุกคนว่า ถึงจะหิวสักแค่ไหน ควรตรวจเช็คอาหารให้ดีๆ ก่อนนำเข้าปาก ไม่งั้นอาจจะเจอเหมือนเรานะคะ
~
~
ปล.ขนมจีนกลิ่นและรสชาติไม่ได้เปลี่ยนนะคะ มีแต่เส้นที่ตรงขอบๆแห้งไปหน่อย คิดว่าโดนลมเลยแห้ง เราเลยเขี่ยขอบที่แห้งๆออกแล้วทานต่อ
~
~
โพสต์ดังกล่าว
อาหารดังกล่าว
ซึ่งหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปต่างก็มีโซเชียลต่างเข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น เส้นแห้งขนาดนี้น่าจะอยู่มานานมากแล้วค่ะ , แม่ค้าควรเช็คขนมจีนก่อนเอามาเสริฟลูกค้านะ , เส้นของขนมจีนก็แห้งและดูแข็งมากนะคะ ขอบคุณที่ช่วยแชร์ ต่อไปจะได้สังเกตให้มากขึ้น , ดูจากเส้นขนมจีนที่แห้งออกสีเหลือง แม่ค้าน่าจะขายไม่หมด เลยเอามาขายในวันถัดไป ขนมจีนแบบนี้ เขาเรียกขนมจีนเส้นสด ควรขายวันต่อวันค่ะ เพราะเขาไม่ได้ใส่สารกันบูด ผ่านไปหนึ่งวันก้มีกลิ่นบูดแล้วล่ะ ซึ่งแตกต่างจากขนมจีนเส้นหมัก การหมักแป้งเขาใช้ยีสต์หมักแป้ง บางร้านเส้นขนมจีนจะมีรสเปรี้ยวนิดนึง และหอมกลิ่นแป้งหมักค่ะ แบบนี้มันจึงสามารถเก็บได้ถึง 2-5วัน (แล้วแต่อากาศวันนั้นๆด้วย)(แต่ไม่แน่ใจว่าเขาใส่สารกันบูดด้วยหรือเปล่านะ) แต่แบบนี้เราว่าอร่อยกว่าค่ะ หากินยากด้วย และส่วนใหญ่เส้นขนมจีนเส้นหมัก จะเป็นเส้นที่ใหญ่อ้วนๆคร้า , โอ้โห ไม่คิดค่าหนมจีน 10 บาท คือความรับผิดชอบน้อยมากอ่ะค่ะ เป็นต้น
~
~
เรียบเรียง สยามนิวส์
~
~