เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ คุยแหลกแดกดึก กับ มดดำ-คชาภา ตันเจริญ โดยเล่าถึงชีวิตในต่างประเทศว่าทุกวันนี้พยายามไม่ยึดติดแม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องใช้ชีวิตที่ห่างจากลูกชาย น้องไปป์-ศุภเสกข์ อมรฉัตร พร้อมยังขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ยังให้ความรักและยังไม่ลืมเพราะถือเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจในการใช้ชีวิตในต่างแดนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ในการเข้ามาดูแลประเทศ
โดยช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ มดดำ นั้นได้หยิบยกประเด็น คลิปไวรัล ถ้าหากใครเติบโตมาในช่วงนั้นคงจะจำคลิปนี้ได้ดี ที่ ยิ่งลักษณ์ เคยพูดต่อหน้าสื่อมวลชนและประชาชน ด้วยประโยคว่า “ดิฉันก็ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว” โดยเจ้าตัวนั้นได้เปิดเผยเบื้องหลังและความรู้สึกที่มีต่อคลิปนั้นว่า
ยังไงก็ยังถึงนึกความรู้สึกวันนั้น วันนั้นมันก็สุดๆ คือเราก็พยายามทุกอย่าง อะไรที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งเราก็พยายามปลดให้ในสิ่งที่เราทำได้ แต่ว่าพอปลดไปปลดมาก็ยังถูกไล่ ถูกไล่อย่างรุนแรง เราก็รู้สึกว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน เราไม่อยากเห็นภาพของคนไทยด้วยกันขับไล่กันออกไปขนาดนี้ เราไม่มีโอกาสได้พูด มันอัดอั้นอยู่ข้างใน วันนั้นมันจึงเป็นภาพนั้น หลังจากแถลงข่าวเสร็จ ก็ไปร้องไห้ต่อ เราก็พยายามกลั้นที่สุดแล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงร้องไห้ วันนั้นมันเหมือนเรากำลังขับรถอยู่ แต่อยากปล่อยพวงมาลัยแล้ว แต่มันปล่อยไม่ได้เพราะรถยังขับเคลื่อนอยู่ ฉะนั้น เราต้องประคองรถคันนั้นไป แม้ว่าจะเจอถนนลูกรังเราก็ต้องอยู่ จนวันที่ไม่ไหว ถึงออกมาบอกว่า ดิฉันจะยอมตายบนสนามประชาธิปไตย
นอกจากนั้น มดดำ ยังได้ถามถึงความรู้สึกว่าอยากกลับบ้านหรือไม่ ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า อยากกลับบ้าน เพราะถือเป็นบ้านเกิด แต่ยังไม่รู้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตาที่ลิขิตว่าจะกำหนดให้ได้กลับบ้านหรือไม่ แต่วันนี้ต้องอยู่ให้ได้ ต้องปล่อยวางและรอจังหวะเวลาในอนาคต
ซึ่งหากย้อนเส้นทาง ทางการเมืองของ ยิ่งลักษณ์ นั้นต้องบอกว่าเป็น นายกรัฐมนตรีหญิง คนแรกและคนเดียวของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯคนที่ 23 ต่อจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ณ ตอนนั้น ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ด้วยวัยเพียง 44 ปี ซึ่งถือเป็นนายกรัฐมนตรีไทยที่อายุน้อยที่สุดในรอบกว่า 60 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเพื่อไทย กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคมอีกด้วย
ขอบคุณ คุยแหลกแดกดึก