จากกรณีคลิปวิดีโอ น้องเตย อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ชาว จ.บุรีรัมย์ อาศัยอยู่กับย่าวัย 68 ปี ตาบอดทั้งสองข้างตามลำพัง คอยช่วยดูแลย่าและทำงานบ้านทุกอย่าง โดยคลิปดังกล่าวภายในวันเดียวมีคนเข้าไปชมมากกว่า 10 ล้านวิว
ซึ่งหลังจากที่ได้เป็นข่าวออกไปทั่วประเทศ ต่างก็มีธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือ ยอดเงินบริจาคทะลุล้าน รองผู้ว่าฯ รุดช่วย รวมถึงพิธีกรดังอย่าง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ประกาศขอส่งเสียน้องจนจบปริญญาเอก นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานเตรียมซ่อมแซมบ้านให้ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด สำนักข่าวดัง เปิดเผยถึงบทสัมภาษณ์ พ่อของน้องเตย ว่าตนไม่เคยกลับไปเยี่ยมลูกสาวและแม่เลย ซึ่งความจริงแล้ว ตนและแม่ของน้องเตย เพิ่งเดินทางกลับไปหาน้องเตย ในช่วงเลือกตั้งส.ส. เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องการส่งเงิน ยอมรับว่า ไม่ได้ส่งเงินไปช่วยเหลือเลย เพราะมีภาระทั้งค่าผ่อนรถ ค่าเช่าบ้าน จึงไม่พอต่อการส่งไปช่วยเหลือ แต่ก็เตรียมจะส่งเงินไปช่วยเหลือในเดือนต.ค.นี้ หลังผ่อนรถหมดแล้ว และเตรียมเดินทางกลับไปเยี่ยมน้องเตยกับแม่ในเดือนส.ค.นี้ ในช่วงวันแม่ เพราะเป็นวันหยุดยาว ที่ผ่านมาแม่ของตนจะมีเงินช่วยเหลือจากภาครัฐไว้ใช้จ่ายกัน 2 คน เป็นรายได้ทางเดียว
พ่อของน้องเตย กล่าวต่อว่า ตนเองนั้นมีลูก 2 คน อีกคนให้ยายเป็นคนเลี้ยง ส่วนน้องเตยให้ย่าเป็นคนช่วยเลี้ยงตั้งแต่อายุ 8 เดือน จนถึงปัจจุบัน เพราะตนและภรรยาต้องเดินทางมาทำงานที่ จ.ระยอง ดีใจที่ลูกสาวได้รับความช่วยเหลือ พร้อมทั้งขอขอบคุณ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ที่เสนอตัวขอเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ส่งน้องเตยเรียนเท่าที่เรียนไหว รวมถึงขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การช่วยเหลือลูกสาวและแม่
ผมกับภรรยาขอสัญญาว่า จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับยอดเงินบริจาคทั้งหมด แค่เห็นแม่และลูกสาวมีคนช่วยเหลือ แค่นี้ก็ดีใจแล้ว โดยเฉพาะน้องเตยที่จะได้เรียนสูงๆ ส่วนผมเองกับภรรยาก็จะขอทำงานอยู่ที่จ.ระยองต่อไป จึงวอนขอให้สังคมเข้าใจด้วย เพราะรายได้ไม่เพียงพอ จึงทำให้ไม่สามารถส่งเงินไปให้น้องเตยและแม่ได้ ผมและภรรยา ก็เหมือนกับพ่อแม่ทุกคน ที่ต้องรักลูกและเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว แต่ด้วยความยากจน เงินเดือนที่ได้ก็แค่มีใช้เพียงเดือนชนเดือนเท่านั้น จึงขอให้สังคมเข้าใจด้วย พ่อน้องเตย กล่าว
ขอบคุณบทสัมภาษณ์พ่อน้องเตยจาก ข่าวสด