by หนุ่มช่างแอร์รายหนึ่ง พลัดพรากจากแม่มานาน 31 ปี ออกติดตามหามาตลอด กระทั่งทราบว่าผู้เป็นแม่ยังมีชีวิตอยู่ แต่อยู่ในสภาพเป็นผู้ป่วยติดเตียง หนุ่มช่างแอร์รายนี้ อายุ 34 ปี อยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี เผยว่า ตั้งแต่จำความได้ปู่-ย่า และอา เลี้ยงดู โดยได้บอกว่าพ่อ-แม่หย่าร้างกัน พ่อไปทำงานที่กรุงเทพฯ
หลังจากเรียนจบตนได้สอบถามจนทราบว่าแม่ไปทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในกรุงเทพมฯ จึงได้ตามหา โดยตามไปยังที่ทำงานของแม่ ปรากฏว่าแม่ลาออกไปมีครอบครัวใหม่แล้ว และก็ไม่มีเบาะแสของแม่อีก แต่ตนไม่ท้อ ติดต่อคนในหมู่บ้านเกิดของแม่ ได้เบาะแสทราบว่าแม่ไปทำงานที่ไหนก็ตามไป แต่ก็ไม่พบ กระทั่งเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา มีคนบอกว่าแม่แต่งงานใหม่ อยู่ที่ จ.สระแก้ว จึงได้นัดกับญาติว่าจะไปดูแม่ ตามที่ได้รับการแจ้งมา
ทันทีที่ไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ก็พบแม่เป็นผู้ป่วยติดเตียง นอนซมอยู่ในห้อง ตนถึงกับยืนตัวแข็งที่ได้เห็นหน้าแม่เป็นครั้งแรก หลังจากตั้งสติได้จึงตรงเข้าไปกราบและกอดแม่ด้วยความดีใจ ผู้เป็นแม่เห็นลูกชายถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา บอกว่าไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นหน้าลูกอีก และบอกว่าไม่เคยลืม รักอยู่เสมอ แต่ขาดการติดต่อมาหลายสิบปี ก็ไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่หรือไม่ ได้พบกันวันนี้รู้สึกดีใจมาก
หนุ่มวัย 31 ได้ป้อนข้าวแม่เป็นครั้งแรก ทว่าหดหู่ใจ ที่เห็นแม่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ด้วยป่วยเป็นโรคความดันและเส้นเลือดสมองแตกจนเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก แขนขาอ่อนแรง แต่ถึงอย่างนั้น จากนี้ไปก็จะขอเป็นส่วนหนึ่งดูแลแม่ในบั้นปลายชีวิต โดยได้ปรึกษากับสามีใหม่ของแม่ ถึงเรื่องที่จะพาไปรักษา และขอบคุณที่ช่วยดูแลแม่มาจนถึงตอนนี้
