สลด ตาทวดพาเหลนเล่นน้ำคลองคลายร้อน สุดท้ายจมน้ำดับทั้งคู่

เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 9 เม.ย.66 ร.ต.อ.หญิง อมรรัตน์ พงษ์ประยูร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าหิน จ.ลพบุรี รับแจ้งมีคนจมน้ำในคลองชลประทานเสียชีวิตจำนวน 2 ราย ที่เหตุเกิดที่คลองซอยชลประทาน หมู่ที่ 1 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร ร.พ.อานันทมหิดล และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี

ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นคลองชลประทานแยกจากคลองหลัก โดยจุดดังกล่าวเป็นลักษณะฝายน้ำล้น มีความสูงจากถนนถึง 4 เมตร ริมถนนพบรถจักรยานยนต์ย่ห้อ ฮอนด้าเวฟสีดำหมายเลขทะเบียน 1 กภ.7726 ลพบุรีจอดอยู่ ใกล้รถจักรยานยนต์พบรองเท้าแตะสีแดงวางอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการงมร่าง ด.ช.มงคลชัย หรือ เปา ตีละลานนท์ อายุ 8 ปี ลักษณะนอนคว่ำหน้าจมน้ำลำตัวมีเสื้อชูชีพสีขาวผูกติดอยู่ โดยร่างน้องเปาลอยหมุนวนในคลองด้วยความแรงน้ำจากฝายขึ้นมาได้เป็นศพแรก ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบร่างของนายสุรินทร์ บุญล้ำ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/4 หมู่ 8 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองลพบุรี ตาทวดของน้องเปาจมอยู่ในน้ำ จึงได้นำร่างของตาทวดและเหลนขึ้นมาเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง

ในขณะที่กำลังทำการชันสูตรพลิกศพนาง มาลี สีหะรัต ซึ่งเป็นย่าของน้องเปาเดินทางมาถึง เมื่อเห็นศพน้องเปา ได้โผเข้ากอดร่างของน้องเปาร้องให้ด้วยความเสียใจ และได้เล่าทั้งน้ำตาว่าเมื่อคืนน้องเปา หลานมานอนด้วยและยังบอกว่าจะให้ตนเองย้อมสีผมให้ เพราะปีนี้จะเล่นสงกรานต์กับเพื่อนๆให้สนุก ซึ่งตนเองได้ตนเองได้รับปากว่าจะทำให้หล่อเลย แต่ไม่ทันได้ย้อมผมเพื่อเล่นสงกรานต์ หลานชายกลับมาจมน้ำตายไปพร้อมตาทวด

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนพลเมืองดี ผู้พบศพคนแรกทราบว่า ขณะที่ตนเองกำลังขี่จักรยานยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุมองลงไปในน้ำเห็นร่างน้องเปาสภาพนอนคว่ำหน้าจมอยู่ในน้ำโดยมีเสื้อชูชีพใส่อยู่ แต่ร่างน้องหมุนวนในน้ำ จึงรีบไปเรียกให้คนมาช่วยเหลือ ปรากฏว่าพบร่างของนายสุรินทร์ ตาทวดของน้องเปา จมน้ำเสียชีวิตอีกคนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว ในเบื้องต้นจากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ และญาติผู้เสียชีวิตคาดว่านายสุรินทร์ได้ขับรถ

จักรยานยนต์พาน้องเปามาเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน แต่ด้วยความแรงของกระแสน้ำที่ไหลแรงเกินไปทำให้ร่างของน้องเปาที่ลอยอยู่กับเสื้อชูชีพเสียหลักหน้าทิ่มจมน้ำจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นายสุรินทร์เห็นเหตุการณ์จึงรีบลงไปช่วย แต่จากความสูงและความชันของคลองชลประทานประกอบด้วยเป็นผู้สูงวัย จึงจมน้ำไปด้วยอีกคน ทำให้ทั้งตาทวดและเหลนต้องเสียชีวิตอย่างสลด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำร่าง ชันสูตรที่โรงพยาบาลก่อนมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป